วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554

V by Sugaroma กับเมนูสุดแสนจะครีเอต




ไปผจญภัยที่ "The Circle ราชพฤกษ์" มา ไปครั้งแรก หลงแล้วหลงอีก ไปครั้งที่สองก็ยังหลง เราไปจากทางพระรามห้า ซึ่งจะยากกว่าไปอีกทาง คือทางสาทร ถ้าใครจะไปที่นั่น ก็แนะนำให้ไปทางเส้นสาทรจะดีกว่า ขับตรงปรื๊ดๆ ก็ถึง ถนนเส้นนี้นี่มันน่ามึนงงจริงๆ


พอไปถึงแล้ว สิ่งที่อยากจะให้มุ่งตรงไปหา ก็คือร้าน "V by Sugaroma" นะ....ต้องลองอ่ะร้านนี้ ชอบวิธีครีเอตเมนู ของเค้ามากๆ เพราะว่าไม่คิดว่าจะเอามาประยุกต์ให้เป็นแบบนี้ได้ด้วย



ซีซาร์สลัดม้วน
เมนูที่เราประทับใจมาก คือ "Ceasar Salad Spring Rolls" (ราคา 105 บาท) มันเป็นซีซาร์สลัดนี่แหละ แต่แตกต่างจากไอ้ที่เคยๆ กินมาอย่างมาก เพราะว่าเค้าเอาผักคอสมาห่อกับแผ่นแป้งปอเปี๊ยะสด แล้วก็หยอดน้ำสลัดซีซาร์ด้านบน วางกรูตองและเบคอนชิ้นเล็กๆ ทอดกรอบ โรยพาร์มิซานชีสขูดฝอยๆ ไปรอบๆ แล้วถ้ายังกลัวจะชีสกันไม่หนำใจ เค้าก็ยังจัดน้ำสลัดซีซาร์ที่ครีมมี่มากๆ ใส่ถ้วยวางไว้ให้จิ้มกันให้สะใจไปเลย ด้านบนน้ำสลัดก็ยังโรยด้วยกรูตอง กับเบคอนกรอบๆ เข้าไปอีก ไม่ตายตอนนี้ แล้วจะไปตายไหน อร่อยลืมตายจริงๆ นะ จานนี้อร่อย กินง่าย และกินเพลิน


จานที่สองนี่ก็ชอบอีกแล้ว เอาวัตถุดิบที่ดูไม่เข้าพวกกันมารวมกันได้ไงก็ไม่รู้ ครีเอตอีกตามเคยนั่นแหละ กับ "Crunchy Wasabi Salmon Fettuccine" (ราคา 185 บาท) เส้นเฟตตูชินี่คลุกกับน้ำมันมะกอกและพริกไทยดำ โรยหน้าด้วยกระเทียมฝานบางๆ ทอดกรอบที่ชิ้นใหญ่สะใจคนชอบกินกระเทียมมาก และเฟตตูชินี่เค้าให้ของกินเคียงคู่มาด้วย มันคือปลาซัลมอนที่กริลล์มาสุกกำลังดี แล้วราดด้วยซอสวาซาบิเผ็ดๆ ฉุนๆ ขึ้นจมูก เผลอคิดไปว่ากำลังกินซูชิเลยอ่ะ แล้วไม่พอนะนั่น ข้างบนปลายังโรยถั่วลันเตาอบกรอบที่บุบๆ ทุบๆ พอให้เปลือกแตกแล้วคลุกกับเกลือเล็กน้อย พอมันมาอยู่บนตัวปลาซัลมอนที่มีซอสวาซาบินะ….สวรรค์เรียกพี่จริงๆ จานนี้ต้องไปลองเองนะ บรรยายไปก็นึกไม่ออกหรอก แต่อารมณ์ก็จะประมาณกินสแนคแจ็ครสวาซาบิอ่ะ



Crunchy Wasabi Salmon Fettuccine

เส้นเฟตตูชินี่เหนียวนุ่ม

ปลาซัลมอนราดซอสวาซาบิ โรยหน้าด้วยลันเตาอบกรอบ


Tuna Melted Panini
ต่อมาเป็นแซนวิช ชื่อชวนให้คิดถึงอิตาเลียนยังไงชอบกล "Tuna Melted Panini" (ราคา 105 บาท)  มันคือขนมปังที่ปิ้งมากรอบๆ แล้วไส้ตรงกลางก็เป็นทูน่าที่คลุกกับมายองเนสรสเปรี้ยวๆ เค็มๆ แต่งรสและกลิ่นด้วยพริกไทยดำ แล้วเอาชีสเยิ้มๆ มาเสริมไว้อีก อร่อยมากนะ แม้หน้าตาอาจจะดูธรรมดาไปหน่อยก็ตาม  เออ แล้วขอบอกว่าเค้าไม่หวงไส้นะ ให้ทูน่ามาเยอะมาก


สองอันสุดท้ายเป็นขนมกินเล่น


อันแรกคือ "Peanut Butter & Chocolate Sandwich" (ราคา 65 บาท)  เค้าเอาเนยถั่วมาทาลงบนขนมปัง ทับกับครีมช็อกโกแลต เค็มๆ มันๆ หวานๆ ขมๆ ดี กินแล้วก็อร่อยไปอีกแบบ เพราะเราชอบกินเนยถั่วอยู่แล้วอ่ะ ถึงขั้นควักจากกระปุกมากินเปล่าๆ อยู่บ่อยๆ






Iced French Chocolate

อีกอันคือ "Nutty Brownie with Ice-Cream" (ราคา 105 บาท) เป็นบราวนี่เนื้อแน่นมาก เหนียวหนุบหนับๆ โรยด้วยอัลมอนต์กรอบๆ ราดซอสช็อกโกแลต แล้วกินคู่กับไอศกรีมวานิลลารสนวลๆ .....หวานชื่นใจ


ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ ที่เราชื่นชอบ "Iced French Chocolate" (ราคา 85 บาท) มันเป็นเฟรนช์ช็อกโกแลตเย็นๆ ที่หวานน้อยแบบที่ชอบ และมีรสขมนิดๆ ชอบแบบนี้แหละนะ แล้วมันแอบเก๋ด้วยการโรยหน้าด้วยช็อกโกแลตขูดเป็นฝอยๆ มี texture นะนั่น


ใครบ้านอยู่แถวละแวกนั้น หรือไปกันถูกก็จงไป ยังมีอีกหลายร้านที่นั่น ที่น่าอร่อยทั้งนั้น.....เอนทรี่นี้ จริงๆ ไปมาได้ 2 – 3 เดือนแล้วล่ะ แต่เพิ่งว่างเขียนถึง.....ไปคราวหน้า มันอาจจะหลงน้อยกว่าเดิม จนถึงไม่หลงเลย....ขอให้โชคดีในการเดินทาง


ปล. แผนที่ที่ให้ไป ก็หวังว่าจะไม่งง 




Nutty Brownie with Ice-Cream

Peanut Butter & Chocolate Sandwich















คลิกที่ภาพเพื่อขยายใหญ่







ไปซ้ำที่ The Anna Restaurant Art & Gallery




กลับไป "The Anna Restaurant" อีกรอบ (อ่านการชิมครั้งแรกได้ที่นี่) เพราะว่าช่วงนี้เค้ามีเมนูใหม่มา น่ากินดีมาดูกันสิ ว่ามีอะไรบ้าง



ปลาซัลมอนยัดไส้กุ้งชีสซอสสตรอเบอร์รี่
อันแรกชอบมาก มันเป็น “ปลาแซลมอนยัดไส้กุ้ง-ชีส ราดซอสสตรอเบอร์รี่” (ราคา 320 บาท) ปลาซัลมอนจานนี้ มันอร่อยตรงไหนรู้มั๊ย มันอร่อยตรงหลายอย่างในตัวมันเลยล่ะ อย่างแรกคือข้างบนเนื้อปลาซัลมอนชิ้นโตๆ เนี่ย มันมีทั้งปู กุ้ง และเห็ดหอมวางโปะอยู่ แล้ววางทับด้วยมาซาเรลล่าชีสอีกที มันเลยเหมือนมีเซอร์ไพรส์เวลาเราตักลงไปบนเนื้อซัลมอน เพราะส่วนผสมเหล่านี้ เราจะมองไม่เห็น จนกว่าจะได้ตักกิน แล้วยิ่งเพิ่มความอร่อย ด้วยการราดซอสสตรอเบอร์รี่ที่รสชาติคล้ายๆ ป๊อกกี้รสสตรอเบอร์รี่ คือออกนมๆ หวานๆ มันๆ ดูไปแล้วไม่น่าจะเข้ากันได้เลย
เนอะ แต่ปรากฏว่ามันเข้ากันได้ดีแฮะ....และทีเด็ดอย่างสุดท้ายของเจ้าจานนี้ก็คือ แมชโปเตโต้ ที่เคยติดใจไปเมื่อคราวก่อนนั่นแหละ แมชโปเตโต้ของ "The Anna Restaurant" จะบดจะยีมาจนนุ่ม แล้วรสชาติมันจะเข้มข้นนมเนยมากๆ นั่งกินเปล่าๆ ยังได้เลย


จานต่อมาชอบที่การจัดวาง และความเบาๆ ของมัน กินแล้วไม่อ้วนแน่.... มันคือ “สลัดหอยเชลล์ซัลซ่า” (ราคา 280 บาท) เป็นหอยเชลล์คำเล็กๆ ราดซัลซ่าซอสแบบสด ที่ประกอบด้วยมะเขือเทศหั่นเต๋า หอมหัวใหญ่ และน้ำส้มบัลซามิก กินคู่กับสลัดที่โรยไข่กุ้งมาให้ด้านบน ชอบสลัด เพราะมันมีส้มซันคิสต์มาด้วย หอมหวานมากมาย ช่วยมาดับรสชาติเปรี้ยวๆ เค็มๆ ของน้ำส้มบัลซามิกได้เป็นอย่างดี



สลัดหอยเชล์ซัลซ่า

ต่อมาคนชอบเป็ดอย่างเรา ก็ถึงกับกรี๊ด เพราะมันคือ “อกเป็ดอบซอสส้ม” (ราคา 320 บาท) เป็นอกเป็ดอบแล่มาบางๆ พอดีคำ ราดด้วยน้ำซอสส้ม จานนี้ความนุ่มของเนื้อเป็ดผ่าน แต่ตัวซอสนั้น แอบผิดหวังเล็กน้อย ที่มันออกจะหวานจนเกินไปหน่อย คงต้องสั่งมากินกับข้าวสวยร้อนๆ ถึงจะพอดี เราดันกินเปล่าๆ เลยหวานแสบทรวง ยิ่งไม่ค่อยชอบกินกับข้าวหวานๆ อยู่ด้วย


จบมื้อด้วยขนมเค้กสีสันสดใสแสบลูกกะตา  “เค้กส้มนมสด” (ราคา 95บาท) และ “สตอร์เบอร์รี่ชีสเค้ก” (ราคา 110 บาท) เค้กส้มเนื้อมันแน่นมาก หวานๆ มันๆ ตัดกับรสเปรี้ยวๆ หวานๆ ของซอสส้มที่เคลือบอยู่ด้านบน ส่วนสตรอเบอร์รี่ชีสเค้ก ชิ้นใหญ่มาก แต่เราว่ารสชีสมันยังนุ่มไป น่าจะปรับให้เปรี้ยวขึ้นอีกนิดนะ จะอร่อยลงตัวกว่านี้เยอะเลยล่ะ


ส่วนเครื่องดื่ม ถ้าใครชอบรสผลไม้ๆ เปรี้ยวๆ หวานๆ ผสมกัน “ฟรุ๊ตพั้นช์” (ราคา 85 บาท) น่าจะถูกใจ แถมสียังสวยงามตาดูน่ากินอีกต่างหาก


"The Anna Restaurant" นี่ถ้าจะไป อย่าพยายามไปช่วงมื้อกลางวันตอนสิ้นเดือน หรือต้นเดือนนะ รับรองไม่มีที่นั่งแน่ๆ จะให้ดี ก็โทรไปจองก่อนดีกว่า เพราะพนักงานออฟฟิศแถวนั้น นิยมมากินกันตรึม !!!!!


สลัดหอยเชลล์ซัลซ่า

อกเป็ดอบซอสส้ม
ฟรุตพันช์


สตรอเบอร์รี่ชีสเค้ก


เค้กส้มนมสด