เมื่อวานไปเที่ยวตึก
Seen Space ในทองหล่อ 13 มา เพราะอยากจะไปลองชิมก๋วยเตี๋ยวที่ร้าน
“เตี๋ยวหน้าคลัง” ที่มันเป็นสาขาใหม่ของร้านก๋วยเตี๋ยวเก่าแก่หน้ากระทรวงการคลัง แถวๆ ถนนพระราม 6 เห็นเค้าว่าอร่อยนักอร่อยหนา
|
ก๋วยเตี๋ยวหมูรวม |
แล้วก็อยากจะไปลองไก่บอนชอนดูด้วยอีกเหมือนกัน ที่อ่านๆ มาเห็นเค้าบอกว่า มันเป็นไก่ที่หมักเครื่องเทศมากมายหลายชนิดของเกาหลี เป็นอาหารเกาหลีที่เรายังไม่ได้ยินชื่อมาก่อนเลย
จึงต้องไปลองสักหน่อยนะ เพื่อนที่ไปด้วยยิ่งเป็นเกาหลีฟีเวอร์นิดๆ อยู่ด้วยนะ
เราไปถึงก็เริ่มที่ก๋วยเตี๋ยวกันก่อน ร้าน
“เตี๋ยวหน้าคลัง” อยู่ชั้นบนสุดของตึกเลยนะ เดินขึ้นบันไดที่อยู่ตรงกลางตึก แล้วหันหน้าเข้าหาด้านในของตึก ก็จะมองเห็นร้านได้ชัดเจนมาก ร้านอยู่ตรงข้ามกับร้าน
"Wine Me Up" ที่อยู่กันคนละฟากของตึก เข้าไปในร้านแล้วรู้สึกว่าร้านน่านั่งดีนะ เพราะว่าผนังด้านหนึ่งของร้าน กรุกระจกใสสูงขึ้นไปจนถึงเพดานเลย มองเห็นวิวข้างล่างได้เต็มที่ เราเลยเลือกนั่งที่โต๊ะด้านที่มันติดกับกระจกใสนั่นแหละ นั่งแล้วไม่อึดอัดดีแฮะ ชอบการจัดร้านแบบนี้
|
ก๋วยเตี๋ยวหมูไทย |
ว่าแล้วเรากับเพื่อนก็สั่งก๋วยเตี๋ยวมากินกันคนละชาม เราสั่ง
“ก๋วยเตี๋ยวหมูรวม” (ราคา99 บาท) ถามพนักงานว่า มันรวมหมูอะไรไว้บ้าง เค้าก็บอกว่า มันมีหมูดำคุโรบุตะ หมูไทย และกระดูกหมูอ่อน (แต่เราว่าพอมันรวมกันมาในชามแล้ว เราก็แยกออกแค่ว่า อันไหนคือกระดูกหมูเท่านั้นแหละ) ส่วนเพื่อนสั่ง
“ก๋วยเตี๋ยวหมูไทย” (ราคา 59 บาท) และที่สะใจมากคือ มีกากหมูให้สั่งแยกต่างหากด้วย 20 บาท....ก็ต้องสั่งน่ะสิ ก็เราชอบกินกากหมูนี่นา
|
น้ำพีชโซดา อร่อยใช้ได้เลย |
|
กากหมูของโปรด
|
พอก๋วยเตี๋ยวถูกยกมา ก็เริ่มโซ้ยกันล่ะ เราสั่งบะหมี่หมูน้ำตก ก็เลยได้ก๋วยเตี๋ยวน้ำข้นๆ มา ส่วนเพื่อนสั่งน้ำใส ก็ได้น้ำซุปมา ไม่ใสมาก สีดูน่ากินไม่แพ้แบบน้ำตก จากที่ได้ลองชิม รู้สึกว่าน้ำซุปมันเข้มข้นดีนะ แต่รสเค็มไปนิดนึง พอดีว่าเพิ่งไปกินก๋วยเตี๋ยวหมูดำคุโรบุตะที่ร้าน
“ซู้ด นู้ดเดิ้ล” ชั้น 7 เซ็นทรัลเวิลด์มา (ฝั่งเดียวกับร้านโมโม พาราไดส์) รู้สึกว่าชอบน้ำซุปที่ร้านนั้นมากกว่า เพราะว่ากลมกล่อมกว่า มีเค็มมีหวาน และรสไม่เข้มเกินไป
สรุปว่าน้ำซุปเค็มไปหน่อย เราเลยไม่ซดกินโฮกๆ เหมือนอย่างที่ชอบทำ เวลาเจอน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ แต่ว่าเส้นบะหมี่กะหมูทั้งหลายก็โอเคนะ ในเรื่องความเหนียวนุ่ม แต่เรื่องขนาด ก็รู้สึกว่าจะเล็กไปหน่อย ไม่ค่อยคุ้มกับราคา 99 บาทสักเท่าไหร่.....สรุปว่า ก็ไม่ได้ประทับใจอะไรมากมายนะ ก็ไม่รู้ว่าร้านต้นตำรับที่หน้ากระทรวงการคลัง มันอาจจะอร่อยกว่านี้รึเปล่า แต่ก็ตั้งใจว่าเดี๋ยวจะกลับไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อแกะ และเมนูอื่นๆ ของเค้าอีกในคราวหน้า เพราะคราวนี้จะต้องเหลือท้องไว้ไปกินไก่ทอด บอน ชอนด้วยนะ
-----------------------
พอเสร็จจากก๋วยเตี๋ยว เราก็มูฟมาที่ร้าน
"Bon Chon Chicken" หรือ ไก่ทอด บอน ชอน หรือ บอนชอน ชิคเก้น ที่อยู่ชั้น 2 ของตึก ถ้ามองลงมาจาก
“เตี๋ยวหน้าคลัง” ก็จะเห็นนะ มันอยู่ตรงบันไดทางขึ้นมาชั้น 3 พอดี ร้านสว่างกว่าที่เราเห็นจากในนิตยสารเยอะเลยอ่ะ โต๊ะเก้าอี้ก็น่านั่งพอสมควร เพราะที่นี่ดูเหมือนเค้าจะเน้นกรุกระจกใสให้ลูกค้ามองออกไปชมวิวทิวทัศน์ในมุมกว้างได้ เพราะร้านนี้ก็มีผนังกระจก 2 ด้านแน่ะ ร้านเลยสว่าง และชมวิวได้ดีเลย
ว่าแล้วก็มาสั่งไก่กันดีกว่า เค้ามีให้เลือกทั้งปีกบน น่อง และไก่ไร้กระดูก หรือจะสั่งทุกอย่างรวมกันก็ได้ ขนาดในการสั่งก็มีตั้งแต่ 3 ชิ้น 6 ชิ้น 9 ชิ้น 10 ชิ้น และ 18 ชิ้น ตามประเภทของไก่ที่สั่ง แล้วต่อมาก็เลือกซอสนะ มันมีซอสการ์ลิค ซอสฮอท แล้วก็ซอสมิกซ์ แต่เราจะสั่งอีซอสมิกซ์นี้ได้ เราต้องสั่งขนาดกลางและใหญ่เท่านั้นนะ เรากับเพื่อนสั่งไก่ไร้กระดูกมากินกัน 6 ชิ้น
(ไซส์ S ราคา 150 บาท) และเลือกซอสฮอท แล้วเค้าก็บอกให้เราเลือกเครื่องเคียงที่มาพร้อมกันเป็นเซ็ตได้หนึ่งอย่าง เราเลยเลือกโคลสลอว์มากินกัน ส่วนเครื่องเคียงที่เหลือที่ไม่ได้สั่งก็มี กิมจิโคลสลอว์ (ฟังดูไม่น่าจะน่ากินเลยอ่ะ ทั้งที่ปกติก็ชอบกินกิมจิอยู่นะ) ข้าว และข้าวเหนียว
|
ไก่ทอด บอน ชอน |
|
บอน ชอน ฟรายส์ |
และเราก็สั่งของกินเล่นเพิ่มกันอีกอย่าง คือ
“บอนชอนฟรายส์” (ราคา 100 บาท) เฟรนช์ฟรายทอดโรยหน้าด้วยพริกไทย เครื่องเทศ (ที่เราคิดว่าน่าจะเป็นโรสแมรี่ป่น) แล้วก็
พาร์มิซานชีส
เอาล่ะที่นี้มาดูกันสิว่ารสชาติมันเป็นยังไงบ้าง....แต่น แต๊น แต๊น....เรากับเพื่อนพบว่าไก่ทอด บอน ชอน นั้นโคตรเหนียวเลยนะ มีอุปสรรคในการกินมาก เพราะว่ามันเป็นเนื้อไก่ที่ทอดจนบางกรอบ แล้วเอาไปคลุกกับน้ำซอสเหนียวๆ ที่มีกลิ่นคล้ายกิมจิ แต่รสชาติจะออกหวานๆ และเหมือนซอสพริกนะ แต่ไม่ยักกะฮอทอย่างชื่อของซอสที่สั่งไปเลยแฮะ เรื่องความเหนียวนี่ ไม่รู้เหมือนกันนะว่าถ้าสั่งแบบปีกบน หรือน่อง มันจะเหนียวน้อยกว่ามั้ย เพราะว่าเนื้อน่าจะเยอะกว่า อารมณ์น่าจะเหมือนกินวิงซ์แซ่บของ KFC อะไรประมาณนั้นรึเปล่า
เออ...แต่ที่งงมากคือ เราสั่งไก่ไป 6 ชิ้น เราก็กินของเราไปจนครบ 3 ชิ้นแล้ว ก็เห็นไก่มันเหลืออีกชิ้นนึง ยังคิดอยู่ว่าทำไมเพื่อนไม่กินให้หมด พอถามเพื่อน เพื่อนก็บอกว่า เค้ากินหมดไป 3 ชิ้นแล้วนะ... อ้าว !!! แล้วงั้น ไอ้ 1 ชิ้นที่อยู่ในจานนี่มันเกินมาเหรอ หรือเค้าแถมให้...ไม่ได้ถามพนักงานอ่ะ ก็เลยแบ่งกันกินคนละครึ่งไปแบบงงๆ
|
หัวไชเท้าดอง |
เอาล่ะไก่เหนียวไปหน่อย กินยาก แต่ว่าเรากับเพื่อนดันไปปลื้ม
“หัวไชเท้าดอง” ซึ่งเป็นเครื่องเคียงที่เค้าแถมมาให้อยู่แล้วในจาน (ซึ่งถ้าจะสั่งเพิ่มมาอีก ก็มีชาร์ตเพิ่มนะจ๊ะ) มันเป็นหัวไชเท้าดองชิ้นลูกเต๋าเล็กๆ ที่ไม่เหม็น ไม่ฉุนเลย รสชาติหวานๆ เปรี้ยวนิดๆ ซ่าหน่อยๆ ดองได้กลมกล่อมมาก คาดว่าน่าจะดองไม่นาน กลิ่นเลยไม่แรง ซึ่งเหมือนมันออกแบบรสชาติมาแล้วว่าต้องกินคู่กับไก่ทอด ตักไก่เข้าปากคำนึง แล้วตามด้วยหัวไชเท้าดองเลย รสชาติทั้งของไก่และของหัวไชเท้าดอง จะอร่อยลงตัวมาก เหมือนว่ามันเสริมรสซึ่งกันและกัน....สรุป
“หัวไชเท้า
ดอง” ชนะเลิศนะงานนี้
|
บ๊วยโซดาซาบซ่ามาก |
ส่วนโคลสลอว์ก็เฉยๆ ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น แต่พอมาถึง
“บอนชอน ฟรายส์” ก็ให้ประทับใจอีกครั้ง เพราะว่าชอบรสเผ็ดร้อนของพริกไทยที่เค้าโรยมาด้านบน และรสชาติเค็มๆ มันๆ ของพาร์มิซานชีสป่นๆ ที่โรยมาด้วยด้วย จะกินเฟรนช์ฟรายเปล่าๆ หรือจะเอาไปจิ้มกับซอสที่เหมือนน้ำสลัดเทาน์ซันไอร์แลนด์ เค็มๆ เปรี้ยวๆ ก็เข้ากันดี และยิ่งเพิ่มความอร่อยด้วย
สรุปว่า ชอบ
“หัวไชเท้าดอง” กับ
“บอนชอนฟรายส์” นะ ส่วนไก่ทอดนั้น เฉยๆ อ่ะ ไม่ได้อยากมากินซ้ำอีกแต่อย่างใด
---------------------------
หนักกันมา 2 ร้านแล้ว เรากับเพื่อนก็อยากจะหาร้านนั่งสบายๆ สั่งโกโก้มากินกันดูมั่ง เหลือบไปเห็นร้าน
"Roast Coffee & Eatery" เลยลองเข้าไปกันดู เพื่อนอิ่มมากกกก เลยไม่สั่งอะไร ส่วนเราก็สั่งโกโก้เย็นตามระเบียบ ได้โกโก้เย็นแก้วกลางๆ ที่ไม่สมราคาเท่าไหร่มาหนึ่งแก้ว (112 บาท) รสชาติก็เฉยๆ อีกละ แต่ที่รู้สึกตะหงิดๆ กับร้านอาหารสมัยนี้มากๆ ก็คือ การชาร์ตลูกค้า 10% เป็นค่าเซอร์วิส
|
โกโก้เย็น |
ซึ่ง.....บางร้านบริการดี เอาใจใส่ ยิ้มแย้มแจ่มใส หรือเราเรียกใช้บริการเค้าเยอะ เราก็ยินดีให้ แต่ว่าบางร้าน เช่นร้านนี้ เราสั่งไปแค่น้ำเปล่ากับโกโก้แก้วเดียว และเค้าก็เดินมาเสิร์ฟเราแค่รอบเดียวเท่านั้น และก็ไม่ได้มีการดูแลอะไรเป็นพิเศษเลย แต่ว่าเราต้องเสียเงินตั้ง 10% ของราคาโกโก้ รู้สึกว่ามันไม่แฟร์เลยอ่ะ คือไม่เข้าใจว่าทำไมลูกค้าต้องมานั่งจ่ายสิ่งที่มันควรจะเป็นบริการพื้นฐานอยู่แล้วน่ะ ถ้าจะมาบอกว่า ก็เผื่อลูกค้าไม่ให้ทิป ก็นั่นแหละประเด็น ถ้าพนักงานอยากได้ทิปจากลูกค้า เค้าก็จะต้องบริการดีๆ นะ ไม่ใช่ว่าจะบริการแย่ๆ ยังไงก็ได้ เพราะว่ายังไงชั้นก็ได้ส่วนแบ่งจากเซอร์วิส ชาร์ตอยู่ดี....
เราเคยเจอพนักงานที่มารยาทแย่มาก ในร้านอาหารชื่อดัง ที่พารากอน เป็นแบรนด์ที่งอกมาจากแบรนด์เสื้อผ้า พนักงานเอาที่คีบขนมปังเขี่ยมือเพื่อนเราออกจากจาน เพราะมือเพื่อนเราบังจาน ตอนเค้าจะมาเสิร์ฟขนมปัง แทนที่จะบอกว่าขอโทษครับ แล้วขอให้เพื่อนเราเลื่อนมือออกไป (คงเดาได้ใช่มะ ว่าร้านไหนที่เสิร์ฟขนมปังให้ลูกค้าฟรี ก่อนอาหารที่สั่งจะมา) พอเราถามอะไร เค้าก็ยักคิ้วตอบ เอ่อ...กวนตรีนมากอ่ะค่ะ... แล้วกับพนักงานที่บริการเราแบบนี้อ่ะเหรอ ที่เราจะต้องเสียค่าเซอร์วิสชาร์ตให้ครั้งละไม่ต่ำกว่า 40 บาท บางทีกินเยอะๆ ก็ร่วมร้อยเลยนะ มันไม่ยุติธรรมกับลูกค้าเลยอ่ะ ขอบ่นหน่อยเหอะ
วิวที่มองลงมาจากร้าน "เตี๋ยวหน้าคลัง"
กลับมาที่
Seen Space และทั้ง 3 ร้านที่เราไปกินมา สรุปว่า จะกลับไปกิน
“เตี๋ยวหน้าคลัง” อีกแน่ๆ เพราะรสชาติดี แม้จะไม่ใช่แบบที่ชอบมากนัก แต่ก็ยังถือว่ารสชาติดี ไม่ผิดหวัง...ส่วนร้านอื่น คงเก็บไว้เป็นประสบการณ์ และเป็นแค่การรีวิวเท่านั้นแหละ
|
บันไดตรงกลางนี่แจ่มมาก |
|
ทางเดินเข้าตัวตึก |
อ้อ....ตึก
Seen Space นี่เค้าวางผังตึกดีนะ โปร่งโล่งดี ตึกไม่เล็ก ไม่ใหญ่ เหมาะกับการเอาท์ดอร์มาก เมื่อไหร่จะหมดหน้าฝนซะทีนะ (ได้ข่าวว่าปีนี้ก็มีแต่หน้าฝนทั้งปีเลยไม่ใช่
เรอะ -*-) มีรูปตึกมาฝากกันด้วย เอามายั่วให้อยากไป เพราะเราชอบใจมากกว่าหลายๆ ตึกที่อยู่ในซอยทองหล่อนะ
ปล. รูปคราวนี้ ไปกินเอง ไม่ได้ไปทำงาน เลยถ่ายจากกล้องไอโฟนนะ ใช้แอพ Tiltshift บ้างอะไรบ้าง เลยอาจจะไม่ค่อยวิ้งเท่าเอนทรีก่อนๆ ที่ใช้กล้องใหญ่ถ่าย (อยากดูรูปให้ชัด ให้ใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะรูปเมนู คลิกที่รูปได้เลยนะจ๊ะ เผื่อบางคนไม่ทันสังเกต)