วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Gloria Jean’s Coffees: อร่อยจนต้องไปซ้ำ

ก็อย่างที่เคยบอกว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบกินกาแฟเท่าไหร่ เพราะว่ามันขม และปกติก็เป็นคนนอนหลับยากอยู่แล้ว พอกินกาแฟเข้าไป มันยิ่งทำให้นอนหลับยากขึ้นไปอีก แล้วก็ไม่ค่อยชอบรสชาติขมๆ ของมันด้วยแหละ แต่ถ้าเอาไปผสมนม ผสมโกโก้ ผสมอะไรต่างๆ นานา ก็จะเพิ่มความน่ากินให้มันขึ้นมาได้อีกเยอะเลย เราก็เลยแอบสั่งมอคคาบ้าง คาราเมล มัคคิอาโต้บ้าง เป็นบางครั้งคราว ไอ้พวกใส่คาราเมลลงไปในกาแฟนี่ชอบมากเลยแหละเพราะมันจะหวานๆ มันๆ เค็มๆ ขมๆ เป็นรสชาติหลายอย่างในคำเดียว อร่อยดี




Crème Brulee
แล้วพอดีว่าเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ได้ไปถ่ายคอลัมน์ที่ร้านกาแฟแบรนด์ออสเตรเลียชื่อ “Gloria Jean’s Coffees" ที่ K-Village สุขุมวิท 26  ซึ่งพอไปถึงก็รู้ตัวแล้วล่ะ ว่าต้องชิมกาแฟด้วยแน่ๆ ซึ่งก็ไม่ค่อยอยากกินเท่าไหร่ แต่ด้วยหน้าที่แล้ว ก็ต้องกินละนะนั่น.....เลยดีใจมากที่เค้าเอาเมนูนึงมาให้ถ่ายเพราะว่ามันมีคาราเมลผสมอยู่ด้วย มันมีชื่อว่า “Crème Brulee" (แก้วเล็ก 110 บาท / กลาง 125 บาท / แก้วใหญ่ 140 บาท ) กาแฟเอสเพรสโซปั่นราดหน้าด้วยซอสคาราเมล ขมนิดๆ แล้วก็มีรสชาติหวานๆ เค็มๆ มันๆ ของคาราเมลแบบที่ชอบเลย มันไม่ขมเกินไป มันเลยอร่อย



แล้วที่นี่เค้าดีอยู่อย่างคือ ทุกเมนูที่มันน่าจะต้องมีวิปครีมโปะหน้า เค้าจะโปะให้อยู่แล้วเสหมือนว่าวิปครีมเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องดื่มแก้วๆ นั้น ไม่ต้องมีการมาจ่ายเพิ่มอีก 5 บาท แล้วถึงจะได้วิปครีมมาโปะ แต่ถ้าใครไม่ชอบกินวิปครีมก็บอกเค้าได้ ว่าไม่ต้องใส่ แต่เราอ่ะชอบกินวิปครีมสุดๆ เลยชอบใจมาก




แล้วก็ที่สำคัญมากอีกอย่างคือ ที่ "Gloria Jean’s Coffees" มีของให้โรยหน้าเครื่องดื่มเยอะดี มีซินนามอน มีเกล็ดช็อคโกแลตรสช็อคโกแลต กับรสสตรอเบอร์รี่ มีน้ำเชื่อม มีซอสช็อค
โกแลต แล้วก็มีผงช็อคโกแลต แบบที่เราเอามาโรยหน้า “Crème Brulee" ของเรานี่แหละ
ของจริงไม่มีผงช็อคโกแลตนะ จะมีแค่ซอสคาราเมลราดมาให้เท่านั้นแหละ (แก้วที่อยู่ในบล็อกเป็นแก้วที่เราไปกินเองที่ร้านสาขา Digital Gateway นะ เพราะว่าวันที่ไปถ่ายคอลัมน์ เนื่องจากของมาเยอะมาก และมาติดๆ กัน แถมบางแก้ว บางจานเป็นของที่ต้องรีบถ่าย เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้นาน ฟองนม ฟองครีมทั้งหลายมันจะเหลวไปซะก่อน เลยทำให้มัวแต่ถ่ายอย่างอื่น จนตอนที่ “Crème Brulee" ยกมาให้ถ่าย เราก็ลืมมันซะสนิทเลย ได้ชิม แต่ดันลืมถ่าย เลยต้องไปถ่ายซ่อมด้วยความเต็มใจ คือไปซื้อมากินเองซะเลย เพราะมันอร่อยจริง อะไรจริง เออ ลืมบอกไป มันเป็นเครื่องดื่ม Signature ของร้านด้วย )




Rosemary Foccasia Ham Cheese and Pesto
ส่วนขนมที่กินเข้าไปแล้วชอบมาก ถึงกับต้องไปซื้อมาซ้ำต่อที่บ้าน มันมีชื่อว่า “Rosemary Foccasia Ham Cheese and Pesto" (ราคา 65 บาท) มันจะหน้าตาเหมือนแซน
วิช ทำจาก Foccasia ขนมปัง
อิตาเลียนที่ด้านบนขนมปังจะ
โรยหน้าด้วยใบโรสแมรี่อบแห้ง
ที่จะทำให้แซนวิชอันนี้มีกลิ่นหอมๆ
ตอนที่เอาไปอุ่นในไมโครเวฟ ส่วน
ที่ทำให้มันอร่อย และทำให้เราติดใจ
ก็คือ แฮม กับ ซอสเพสโต (ซอส
โหระพา) ที่ทาอยู่ด้านในของ
ขนมปัง แฮมมันรสชาติไม่เหมือน
แฮมที่เคยกินน่ะ แต่อธิบายไม่ถูก
ว่าไม่เหมือนยังไง คล้ายๆ จะต่างตรงที่
มันไม่มีรสชาติผงชูรสล่ะมั้งนะ เพราะแฮมสมัยนี้ชอบทำออกมารสหวานแปลกๆ หวานแบบหวานผงชูรสน่ะ ไม่ชอบเลย สรุปว่าแฮมนี่แหละ คือหัวใจของ “Rosemary Foccasia Ham Cheese and Pesto"  แล้วชีสกับซอสเพสโตก็เป็นตัวช่วยให้รสชาติมันหลากหลายมากขึ้น โดยมีโรสแมรี่เป็นตัวเสริม เหมือนผู้หญิงที่สวยอยู่แล้ว แล้วก็แต่งตัวให้สวยยิ่งขึ้น จบด้วยการฉีดน้ำหอมให้ตัวหอมฟุ้งนั่นแหละ




Cheese Cake with Cranberry Sauce
ยังมีขนมอีกสองอย่างที่เราชอบรองลงมาจาก Foccasia นั่นคือ “Cheese Cake with Cranberry Sauce" (ราคา95 บาท) กับ “Banana Marble Muffin" (ราคา 65 บาท) อันแรกเป็นชีสเค้กรสนวลๆ ไม่เค็มมาก ราดด้วยแครนเบอร์รี่ซอสสีแดงๆ รสชาติเปรี้ยวปรี๊ด มีอมหวานหน่อยๆ ตัดกันดีเลยแหละกับรสเค็มนวลๆ ของชีสเค้ก ส่วนอีกอันเป็นมัฟฟิน ที่หน้าตากับรสชาติมันก็เป็นคู่แฝดกับเค้กกล้วยหอมเรานี่เองแหละ เพิ่มความอร่อยตรงที่ใส่ช็อคโกแลตลงไปให้มันเป็นมาร์เบิ้ล (เค้กหินอ๊อนอ่อน) เท่านั้นเอง แนะนำว่าตอนสั่งที่ร้าน ให้บอกพนักงานให้เอาไปอุ่นให้นิดหน่อยนะ แล้วมัฟฟินมันจะอุ่นๆ กรอบนอกนุ่มใน อร่อยกว่ากินมันแบบธรรมดาล่ะ


Iced Tea Mango

ส่วนเครื่องดื่มอื่นๆ ที่เราได้ถ่ายในครั้งนี้ก็ยังมีอีกนะ แต่พอดีว่าไปประทับใจ  “Crème Brulee" เข้าซะแล้ว อันอื่นเลยไม่ได้เน้นที่จะพูดถึงเท่าไหร่นะ แต่คนที่อ่านก็คงอยากรู้ใช่มั๊ยล่ะ ว่ามีอะไรอื่นอีกบ้างที่น่ากิน เอาตัวที่เราชอบๆ ละกันนะ ก็มี Iced Tea Passion fruit / lemon / Mango (แก้วเล็ก 80 บาท / แก้วกลาง 90 บาท / แก้วใหญ่ 100 บาท ) มันเป็นชาจากใบชาเต็มใบ ใส่ในซองผ้าไหมทรงปิรามิด ชงแล้วก็เติมน้ำเชื่อมรสชาติตามชอบ มีให้เลือก 3 รส คือ แพสชั่นฟรุ๊ต เลมอน แล้วก็มะม่วง แก้วที่เราได้กินใส่นำเชื่อมรสมะม่วง ซึ่งมันก็มีรสมะม่วงชัดเจนดีนะ ถูกใจคนชอบมะม่วงอย่างเราเป็นที่สุด คิดว่าอีกสองน้ำเชื่อมที่เหลือก็น่าจะอร่อยไม่แพ้กัน



อีกสองแก้วสุดท้ายที่ชอบคือ  “Classic Hot Chocolate"  (แก้วเล็ก 80 บาท / แก้วกลาง 95 บาท / แก้วใหญ่ 110 บาท ) กับ “GJC's Original Iced Chocolate" (แก้วเล็ก 95 บาท / แก้วกลาง 110 บาท / แก้วใหญ่ 125 บาท ) สองแก้วนี้เป็นช็อคโกแลตร้อนกับเย็น ตัวที่เป็นช็อคโกแลตร้อน จะเค็มๆ มันๆ จากนมสดที่ใส่ลงไปนะ อร่อยดี ส่วนตัวที่เป็นช็อคโกแลตเย็น จริงๆ ที่เค้าขายอยู่เป็นเมนูช็อคโกแลตปั่น แต่เนื่องจากว่าเราไม่ชอบกินอะไรปั่นๆ เลยขอเค้าเอาแบบชงธรรมดา เลยได้เป็นแก้วที่ถ่ายมาให้ดูนี่แหละ ซึ่งลูกค้าปกติก็สามารถสั่งแก้วนี้แล้วบอกว่าไม่เอาแบบปั่นก็ได้นะ ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด อร่อยชื่นใจไม่แพ้  “Crème Brulee"



ถ้าใครเบื่อๆ ร้านกาแฟที่เคยกิน อยากลองอะไรใหม่ๆ ลองแวะไป “Gloria Jean’s Coffees" ดูก็ได้นะ เวลาเราไปทำงานที่ไหน แล้วอาหารร้านนั้นรสชาติถูกปากถูกใจ เราก็จะเก็บเอาไว้เป็นทางเลือกของเรา และมักจะแวะกลับไปกินเองเสมอเลยแหละ



ตอนนี้ “Gloria Jean’s Coffees" ยังมีแต่สาขาที่อยู่ในเมืองนะ เพราะเค้าเพิ่งมาเปิดที่เมืองไทยได้ไม่นาน เลยยังมีสาขาไม่มาก ตอนนี้ก็มีแค่ 3 สาขาเท่านั้น คือ

 - ชั้น 1 อาคารมิดทาวน์ อโศก
    (ตรงข้ามตึก GMM แกรมมี่)
    จ. – ศ. เปิด 7.30 – 19.00 น.
    / ส. เปิด 9.00 – 18.00 น.
    / อา. เปิด 9.00 - 17.00 น.



- ชั้น 3 ดิจิตอล เกตเวย์ สยามสแควร์ (ชั้นที่เชื่อมกับสถานีรถไฟฟ้า BTS) ร้านจะอยู่ด้านหน้า
  บันไดเลื่อนลงชั้นล่าง เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00 - 20.00 น.
 
 - ชั้น 1 โซน บี ที่ เค วิลเลจ (สุขุมวิท 26 หรือ หลังคาร์ฟูร์ พระราม 4) จ. – พฤ.
    เปิด 7.00 – 22.00 น. / ศ. เปิด 7.00 – 22.30 น. / ส. – อา. เปิด 8.00 – 22.30 น.


 และเร็วๆ นี้จะมีสาขาใหม่ที่อาคารมาลีนนท์ด้วย เป็นสาขาที่ 4 ใครใกล้ที่ไหน ก็ไปชิมที่นั่นแล้วกันนะ



Chocolate Lamington
 
Chocolate Lamington

GJC's Original Iced Chocolate

Caffe Latte

Banana Marble Muffin

Classic Hot Chocolate



















2 ความคิดเห็น:

  1. ซอสโหระพากับIced Tea Passion fruitน่าสนนะ

    ตอบลบ
  2. เสียดายอ่ะค่ะ ยังไม่ได้กินชาแพสชั่น ฟรุ๊ตเลยอ่ะ เลยไม่รู้ว่ามันจะเปรี้ยวรึเปล่า ถ้าไปกินมาแล้ว มาบอกกันด้วยนะคะ

    ตอบลบ