วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554

เชียงใหม่ทริป ร้านเด็ด ร้านดี ตอนที่ 2: ห้องขนม

ทีรามิสุ เค้ก
หายไปนานประมาณนึง พอรู้สึกตัวได้ เลยรีบกลับมาอัพเดตร้านที่สองของทริปเชียงใหม่ต่อเลยดีกว่า ทิ้งไว้นานๆ มันค้างคา


ร้านที่สองก็ยังคงวนๆ เวียนๆ อยู่แถวนิมมานฯ แหละนะคะ แต่ว่ามันจะเป็นถนนที่คู่ขนานไปกับนิมมานฯ ไม่ใช่ถนนนิมมานฯ โดยตรง ถนนเส้นนี้คือถนน “ศิริมังคลาจารย์”  ถ้าเรามาจากทางเซ็นทรัล กาดสวนแก้ว มุ่งหน้าไปทาง
มช. ถนนเส้นนี้จะอยู่ตรงแยกแรกเลยค่ะ ให้เลี้ยวซ้ายเข้ามาเลยค่ะ ตรงมาเรื่อยๆ มองทางซ้ายมือเอาไว้ ก็จะเจอกับร้านสีครีมๆ ขอบเขียวๆ ร้านนึง มีชื่อตัวเท่าบ้าน (ไม่แน่ใจว่าเดี๋ยวในอนาคต เค้าจะเปลี่ยนป้ายชื่อร้านอีกรึเปล่านะคะ) เขียนเอาไว้ว่า “ห้องขนม” จอดรถได้ที่ข้างร้านๆ แล้วแวะเข้าไปเลยค่ะ





ห้องขนมเป็นร้านที่ขายอาหารจานเดียว และขนมเค้กอร่อยๆ ใครชอบกินขนมเค้ก มาร้านนี้ รับรองไม่ผิดหวัง เพราะเค้ามีเค้กหลากหลายมาก ทั้งที่เจ้าของทำเอง และรับมาจากที่อื่น กินกันเพลินไปเลย


แต่เหตุผลหลักๆ ที่อยากแนะนำร้านนี้ เพราะว่าไปแถวนิมมานฯแล้ว มึนหัวค่ะ!!! คนเยอะ พลุกพล่านน่าดู อาจเป็นเพราะตอนที่เราไป มันเป็นช่วงเทศกาลด้วยแหละ เวลาปกติเป็นไงไม่รู้เหมือนกัน แต่แถวศิริมังคลาฯ คนน้อยดี ไม่เยอะจนหาที่นั่งไม่ได้แบบแถวนิมมานฯ



มูสผลไม้


ร้าน “ห้องขนม” เค้าเน้นพวกเมนูสเต็กแบบง่ายๆ สปาเก็ตตี้หน้าต่างๆ แล้วก็ข้าวสารพัดหน้า ที่เราได้ลองกินก็มีดังนี้เลย



สเต็กปลาทอด

 “สเต็กปลาทอด” (ราคา 45 บาท เสิร์ฟพร้อมข้าวราคา 50 บาท) เค้าเอาปลาไปชุบกับเกล็ดขนมปังทอดกกรอบๆ แล้วก็ราดหน้ายำผักและผลไม้ไว้ด้านบน  ยำที่ว่ามันจะมีทั้งแอปเปิ้ลเขียว พริกเหลือง หอมหัวใหญ่ และมะเขือเทศ ใส่ข้าวคั่วลงไปด้วย รสชาติก็เปรี้ยวๆ หวานๆ หอมกลิ่นข้าวคั่วดี...ถ้าอาหารมาถึงแล้วให้รีบกินนะคะ เพราะว่าถ้าทิ้งไว้นานๆ ปลาแช่อยู่ในน้ำยำนานเกินไป มันจะนิ่มค่ะ เดี๋ยวกินไม่อร่อย



ส่วนจานนี้ชอบมาก มันคือ "สเต็กไก่" (ราคา 45 บาท เสิร์ฟพร้อมข้าวราคา 50บาท)  เพราะว่าชอบกินหนังไก่ ยิ่งถ้าย่างกรอบๆ นะ สวรรค์เลย ไม่ได้กลัวมะเร็งแม้แต่น้อยนิด เค้าหมักยังไงไม่รู้ พยายามถามสูตรอยู่ รสชาติมัน เค็มๆ มีหวานนิดๆ ไม่ได้หวานมากแบบไก่ย่างที่เค้าชอบขายๆ กันอยู่อ่ะ อันนี้เรากินเปล่าๆ ได้เลย ไม่ต้องเอาไปจิ้มอะไรเลย กินแกล้มกับผักต้ม ไก่สองชิ้นหมดไปภายในพริบตา




แล้วก็มี “ยำปลาโบราณ” (ราคา 30 บาท เสิร์ฟพร้อมข้าวราคา 40 บาท) น้ำยำจะเป็นแบบน้ำพริกเผา ยำพร้อมกับเครื่องลาบ เอามากินแกล้มกับแอปเปิ้ล จานนี้เพราะใช้น้ำพริกเผาที่รสหวานจัด เค็มจัด เลยต้องสั่งมากินกับข้าวนะคะ เพราะถ้ากินเปล่าๆ รสชาติอาจจะเข้มไปนิด



มีแต่ของแห้งๆ ทอดๆ ย่างๆ ไม่ได้สินะ เราต้องสั่งอะไรน้ำๆ มาซดให้คล่องคอด้วย เอานี่ไปเลยอ่ะ “ต้มยำน้ำข้นปลาทอด” (ราคา 40 บาท เสิร์ฟพร้อมข้าวราคา 45 บาท) ชอบเลย เอาของทอดมาแช่ในน้ำแกงเนี่ย  มันเป็นปลาทอดที่ใส่ลงไปในต้มยำน้ำข้นที่รสชาติเข้มข้น เปรี้ยว เค็ม หวาน และเผ็ดนิดๆ มันมี ครบทุกรส ซดไปได้เรื่อยๆ



จบพระเอกคืออาหารจานเดียวไปแล้ว ก็มาต่อกันที่นางเอกคือ “เค้ก” สารพัดของ “ห้องขนม” กันเลยเหอะ


เค้กช็อกออเรนจ์
เอาเรียงลำดับ จากที่เรากินแล้วชอบดีกว่า  เริ่มที่ “ทีรามิสุ เค้ก” รสชาติหวานมัน เนื้อเนียนมาก / “เค้กช็อกออเรนจ์” เปรี้ยวนิดๆ  หวานหน่อยๆ จากผิวส้มในแยมที่ราดอยู่บนหน้าเค้ก / “ชีสทาร์ตบลูเบอร์รี่” เปรี้ยวๆ หวานๆ ตรงหน้าบลูเบอร์รี่ แต่ความอร่อยเราว่ามันวัดกันที่ไอ้ตัวครีมชีส กับบิสกิตที่อยู่ข้างล่างนี่แหละ ว่ามันจะเค็มๆ มันๆ ได้แค่ไหน ซึ่งอันนี้ครีมชีสมันหนามาก หนาได้ใจ เราเลยให้มันเต็ม 10 จากความชอบของตัวเองล้วนๆ หลังจากที่ได้ลองบลูเบอร์รี่ ชีสเค้กมาแล้วหลายเจ้า / "มูสผลไม้รวม" อันนี้ก็อร่อยสุดยอด ตัวมูสมันจะเนียนๆ เปรี้ยวๆ หวานๆ ตักมากินพร้อมๆ กับผลไม้นะคะ อร่อยดี




เค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม
อีกสองอย่างที่เราชอบน้อยหน่อย แต่คนอื่นอาจจะชอบมากก็ได้นะ มันคือ “เค้กชาเย็น” รสชาติมันจะเป็นแบบชาเย้น ชาเย็นที่เรากินกันนี่เลยค่ะ แต่มันหวานไง เราเลยไม่ชอบ เพราะเราไม่ชอบ
อะไรที่มันหวานๆ
“เค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม” อันนี้จริงๆ ก็ชอบอยู่นะ  เพราะชอบ
รสขมๆ ของช็อกโก-
แลตที่อยู่บนหน้าเค้กกับตรงกลาง ชอบที่มันไม่ได้หวานมาก  แต่ไม่ชอบตรงที่มันไม่ค่อยจะหนาเลยค่ะ ถ้าเนื้อครีมช็อกโกแลตฟูๆ และหนานุ่มกว่านี้อีกนิดจะดีมากเลย ^_^



อ้อ เค้กทั้งหมดราคาชิ้นละ 55 บาทนะคะ



ปิดจ๊อบกันที่เครื่องดื่มดีกว่า ราคาเครื่องดื่มที่ "ห้องขนม" ถูกมากอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อเทียบกับรสชาติของมัน ที่กินไปวันนั้นคือ "โยเกิร์ต สตรอเบอร์รี่" (แก้วละ 20 บาท) กับ "โยเกิร์ตวุ้นมะพร้าว" (ราคา 25 บาท) ทั้งสองแก้วนี้รสชาติจะออกเปรี้ยวอมหวาน กินแล้วก็ชื่นใจดี ...เจ้า "โยเกิร์ตวุ้นมะพร้าว" รสชาติจะประหลาดล้ำอยู่สักหน่อย เพราะเอาน้ำมะพร้าวที่มีรสชาติเฉพาะตัวของมัน มาผสมกับโยเกิร์ตเปรี้ยวๆ ตอนแรกก็คิดว่า มันไม่ค่อยลงตัวนะ แต่พอกินเข้าไป ก็เออ มันไปด้วยกันได้ดีแฮะ แนะนำให้สั่งเลยแหละ



สงกรานต์นี้หยุดยาวมาก ยิ่งถ้าใครลาปิดช่องโหว่ของ long weekend ได้ ก็จะยิ่งเป็น mega day off เลยนะ  และเชียงใหม่ก็ต้องเป็น destination แรกๆ ที่คนอยากไปกันแน่ๆ เพราะว่าสงกรานต์ที่นั่นสนุก และมีอะไรให้ทำเยอะ ก็ลองแวะไปกินเค้กกับสเต็กอร่อยๆ ที่ "ห้องขนม" กันดูก็ได้ค่ะ ร้านเปิดช่วงบ่ายๆ นะคะ ยังไงก็ลองโทรเช็คกับเจ้าของร้านเค้าดูก่อนนะคะ ว่าเค้าหยุดวันไหนมั่ง และเปิดกี่โมง จะได้ไม่ไปเก้อ เพราะสองสาวเจ้าของร้าน เค้าทำงานประจำไปด้วย เปิดร้านอาหารไปด้วย บางทีอาจมีวันที่จำเป็นต้องหยุดต่างกับร้านอื่นๆ หรือถ้าใครหาร้านไม่เจอ โทรไปถามได้เลยที่เบอร์ 082-898-8049 หรือไปติดตามความเคลื่อนไหวเรื่องเมนูต่างๆ โปรโมชั่นนู่นนี่ ได้ที่เพจของ Hongkanom Cm ในเฟซบุ๊คได้เลยค่ะ



ยังมีเหลืออีก 2 ร้านนะคะ สำหรับทริปเชียงใหม่ เป็นร้านเล็กๆ สองร้าน ร้านนึงเป็นร้านที่เราไปกินประจำสมัยยังเรียนอยู่ที่เชียงใหม่ ที่ไม่ว่าจะไปกี่ที มันก็ยังอร่อยเหมือนเดิม ส่วนอีกร้านนึง เพิ่งเปิดมาเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วนี้เองค่ะ อย่าลืมติดตามนะคะ




มูสผลไม้

ชีสทาร์ตบลูเบอร์รี่

เค้กชาเย็น

โยเกิร์ต สตรอเบอร์รี่

โยเกิร์ตวุ้นมะพร้าว


ต้มยำปลาทอดน้ำข้น



เสต็กไก่

ยำปลาโบราณ

สเต็กปลาทอด











วันพุธที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2554

เชียงใหม่ทริป ร้านเด็ด ร้านดี ตอนที่ 1 : ชั้น ๑ คาเฟ่ / Chan-neung Cafe&beds

ด้านหลังประตูเชื่อมกับสวนเล็กๆ
ปีใหม่ปีนี้ เพื่อนรักกลับจากต่างประเทศ มาเยี่ยมบ้านที่เชียงใหม่ เลยได้โอกาสไปฉลองปีใหม่ที่นู่น แล้วไปคราวนี้ก็ตระเวนกินทั้งร้านที่เคยไปกินมาแล้ว และร้านใหม่ๆ เพียบเลย จะทยอยลง ให้ดูกันที่ละร้านนะคะ

ตั้งต้นกันที่นิมมานเหมินทร์ซอย 1 กันก่อนเลย ซอยนี้ทั้งซอยจะอุดมไปด้วยอาร์ตแกลลอรี่ ร้านขายผ้าโบราณ ร้านขายของอาร์ตๆ แต่ว่าถ้าเดินเข้ามาจนถึงกลางซอย แล้วหันไปมองทางด้านขวามือ จะเจอร้านเล็กๆ ร้านนึง มีซุ้มต้นไม้ใหญ่ๆ ปกคลุมอยู่ด้านหน้า มีโต๊ะเก้าอี้ วางอยู่พอประมาณ กับเลขหนึ่งไทยตัวเท่าบ้านบนกรอบประตูของร้าน ให้เดินเลี้ยวเข้าไปเลย เพราะนั่นคือ “ชั้น ๑ คาเฟ่” ร้านที่รวมไว้หมดทั้ง เครื่องดื่มเบาๆ อย่าง โกโก้ ชา กาแฟ ขนมเค้กอร่อยๆ และเครื่องดื่มหนักๆ ประเภทแอลกอฮอล์ทั้งหลาย ไปจนถึงตู้ไปรษณีย์เล็กๆ ให้คุณหย่อนอะไรๆ กลับไปให้ตัวเองที่บ้านก็ได้ (อารมณ์คล้ายๆ ไป
ปายเนอะ แต่อันนี้ไปไม่ไกลเท่าปาย)


ร้านมันน่านั่งมาก เพราะว่ามันดูเหมือนร้านที่ยังสร้างไม่เสร็จ !!! ด้วยการตกแต่งบางจุด และข้าวของที่ใช้ภายในร้าน อย่างผนังด้านหน้าร้านที่เอาไม้ชิ้นเล็กมาตอกทับๆ กันเอาไว้เหมือนฝาบ้านสมัยก่อน หรือเคาน์เตอร์ที่เหมือนเอาเศษไม้ในไซท์งานก่อสร้างมาวางกองเรียงๆ กัน ส่วนโต๊ะที่ตั้งไว้ในร้าน ก็เอาโรลม้วนสายไฟมาทำ สวยแบบดิบๆ ดีนะ ที่มันแนวได้ขนาดนี้ เพราะน้องแพร และเพื่อนๆ เค้าจบจากคณะ สถาปัตยกรรม ภาพยนตร์และวิดีโอ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังนั่นเองแหละ เลยไม่แปลกใจในความแนวของร้านและเจ้าของร้านแต่อย่างใด


ระเบียงด้านหลังบนชั้น 2
แต่ที่ชอบมากคือระเบียงชั้นบน ที่มองลงมาแล้วเห็นสวนเล็กๆ หลังบ้านนี่แหละ มันรู้สึกเหมือนอยู่เมืองนอกยังไงบอกไม่ถูก อันนี้เป็นจินตนาการส่วนตัวนะ ไม่รู้เหมือนว่าทำไมถึงมองแล้วรู้สึกแบบนั้น แต่ตอนที่แสงแดดยามบ่ายส่องลงมาที่ระเบียง แล้วมันได้อารมณ์แบบนั้นจริงๆ


ส่วนขนมที่ไปลองกินที่ “ชั้น๑ คาเฟ่” วันนั้น คือ “สตรอเบอร์รี่ เครปเค้ก” ที่ "น้องแพร" หนึ่งในหุ้นส่วนของร้าน บอกว่า รับมาจาก “Baking Mania” หน่วยทำขนมที่อร่อยมากๆ (ทำส่งแค่เฉพาะที่ร้าน “ชั้น๑ คาเฟ่” ของน้องแพร กับอีกไม่กี่ร้านในเชียงใหม่เท่านั้น) เนื้อเครปหนานุ่มวางเรียงสลับกับครีมเนื้อเนียนๆ ราดซอสสตรอเบอร์รี่ มันอร่อยมาก! จากที่ชอบเครปเค้กอยู่แล้ว เลยยิ่งชอบเข้าไปใหญ่ ว่าแล้วก็อยากกินอีกอ่ะ


ส่วนเครื่องดื่มที่สั่งมา ก็ต้องเป็น ช็อกโกแลตเย็น แหงอยู่แล้ว เพราะเราไม่ชอบกินกาแฟนิ ช็อกโกแลตของ “ชั้น๑ คาเฟ่” แอบมีกิมมิคด้วยนะ ตรงที่เอาช็อกโกแลตชิ้นเล็กๆ มาวางไว้ด้านบนด้วย  กินน้ำหมด ก็หยิบช็อกโกแลตมาแทะต่อ อร่อยต่อเนื่องดี


ถ้าใครไปเที่ยวเชียงใหม่ ก็ลองแวะไปร้านเล็กๆ แนวๆ นี้ได้นะ ยิ่งถ้าช่วงไหนมีเทศกาล (เร็วนี้ก็สงกรานต์ไง) จะยิ่งสนุก เพราะตอนช่วงปีใหม่ น้องแพรกับบรรดาร้านรวง และแกลลอรี่แถวนั้นก็ปิดซอยจัดงานปาร์ตี้กันเป็นที่สนุกสนานมาแล้ว หรืออย่างช่วงเดือนธันวาคมก็มีงานแนป หรือถนนคนเดินแบบอาร์ตๆ ด้วย ซึ่งร้านน้องแพรก็มีอะไรสนุกๆ มาร่วมอยู่ในงานด้วยเหมือนกัน ก่อนจะไปลองเข้าไปดูเพจ  ชั้น๑ คาเฟ่ Chan-neung Cafe&beds ของร้านก่อนก็ได้ จะได้รู้จักพวกเค้ามากขึ้น


แล้วถ้าได้แวะไป ก็อย่าลืมมองหาสาวน้อยร่างบาง ที่หน้าตาละม้ายคล้ายก้อย รัชวินนะ นั่นล่ะ “น้องแพร” เจ้าของร้านคนสวยของเราเอง


เดี๋ยว Entry ต่อไป จะมาอัพเดตร้านอร่อยๆ ที่เพิ่งเปิดได้ไม่เกิน 2 ปี ให้ดูกันนะคะ ยังมีตอนต่อไปอีกหลายตอนเลยนะ โปรดติดตาม


เคาน์เตอร์หันหน้าออกหน้าร้าน
สวนด้านหลัง


ด้านหน้าร้าน

โรลม้วนสายไฟที่เอามาทำเป็นโต๊ะ




เคาน์เตอร์หน้าร้าน












สตรอเบอร์รี่เครปเค้ก

ช็อกโกแลตเย็น



น้องแพร เจ้าของร้าน "ชั้น๑ คาเฟ่"