วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Ai Garden กับเค้กชาเขียวที่ตามหา

ขณะที่ใครๆ ก็มุ่งหน้าไป K-Village สุขุมวิท 26 หาอะไรอร่อยๆ กินกัน แต่เราจะเดินเลยมันไปอีกหน่อยแหละ เพราะว่าด้านหลัง (เอ๊ะ หรือว่าควรจะเรียกว่าด้านข้างดีหว่า) ของ K-Village ยังมีอีกอเวนิวแอบซ่อนตัวอยู่นะ !!! มันชื่อว่า “นิฮอนมาชิ” ล่ะ !!!!!


จริงๆ ที่ “นิฮอนมาชิ” มันจะมีแต่พวกอาหารญี่ปุ่นหนักๆ ซะเป็นส่วนใหญ่เลยนะ จำพวกราเมง ปิ้งๆ ย่างๆ ทำนองนั้นน่ะ แต่วันนี้เราจะไม่ไปกินอะไรหนักๆ อย่างนั้นกันนะ อิ่มเกิ๊น แต่เราจะไปกิน และถ่ายรูปกันที่ร้านขนมแหละ


ร้านที่ไปมาคราวนี้ มีชื่อว่า “Ai Garden" เป็นร้านเบเกอรี่ และเครื่องดื่มสไตล์คาเฟ่ญี่ปุ่น (ก็มันอยู่ในอเวนิวญี่ปุ่นนี่นาเนอะ)  ขนมเบาเบา เครื่องดื่มก็เบาเบา แต่แค่นั้นก็อิ่มจะแย่อยู่เหมือนกันนะ


เริ่มกันที่ “เค้กชาเขียว – เกาลัด” (ราคาชิ้นละ 105 บาท) ซึ่งเป็นสิ่งที่ชอบที่สุดในการมาครั้งนี้เลยแหละ  เพราะว่าไอ้ตัวครีมชาเขียวที่โปะมาอย่างหนาบนหน้าเค้ก และตรงกลางตัวเค้ก มันเป็นรสแบบชาเขียวจริงๆ เลยอ่ะ รสชาติแบบเหมือนกินสาหร่ายปิ้งเข้าไปอ่ะ นึกออกกันมั๊ย เวลาที่เราไปกินอาหารญี่ปุ่นแล้วเค้าจะมีชาเขียวเสิร์ฟให้ใช่มั๊ย รสชาติมันเป็นแบบนั้นเลย ไม่หวานมากด้วย แล้วที่มันได้รสชาติชาเขียวเต็มๆ แบบนี้ เพราะว่าผงชาเขียวมัตฉะที่ทางร้านเค้าใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญเนี่ย มันราคากิโลละ 200 บาทอ่ะ  แพงแต่อร่อยก็ยอมนะ


เค้กชาเขียว - เกาลัด





ส่วนเครื่องดื่มที่เราปลื้มมากๆ คือ “Milky Mango Smoothies" (ราคา 119 บาท) เพราะว่าเป็นคนที่ชอบกินมะม่วง น้ำมะม่วง และอะไรก็ได้ที่ใส่มะม่วงสุกแบบสดๆ ลงไป ไอ้แก้วนี้มันเลยได้ใจเราไปเลย เพราะว่ามันมะม๊วง มะม่วง รสชาติจะเปรี้ยวๆ หวานๆ จากมะม่วงน้ำดอกไม้ ผสมกับความมันของนมๆ ครีมๆ ที่โปะมา อร๊ากกก ชอบ (แต่ถ้าใครไม่ชอบกินมะม่วง ก็ขอให้ผ่านไปซะ)


ถ้าไม่ชอบมะม่วง ก็ให้สั่ง “Lynchee Sunrise" (ราคา 95 บาท) มากินแทนซะ ซึ่งมันก็คือน้ำลิ้นจี่นั่นเอง  เอาเนื้อลิ้นจี่มาปั่นผสมกับเจลลี่รสลิ้นจี่ แล้วก็ใส่น้ำเชื่อมรสลิ้นจี่ลงไปอีก (เค้าบอกว่าใช้น้ำเชื่อมลิ้นจี่ยี่ห้อ “อาซาฮี” จากญี่ปุ่น”) มันก็เลยออกมาเป็นน้ำลิ้นจี่ปั่นที่มีเนื้อแบบสเลอปี้นิดๆ ก็อร่อยดี แต่รสเข้มไปนิด คงต้องนั่งรอให้มันละลายสักหน่อยแล้วค่อยกิน จะได้รสชาติที่ลงตัวกว่า

Ai Love Berry Parfait

เออ ไอศกรีมก็มีนะ และแน่นอนว่าถ้าเป็นร้านแบบคาเฟ่ญี่ปุ่น ไอศกรีมที่ได้มา ก็จะต้องเป็นแนวพาร์เฟต์อย่างแน่นอน (ทำไมคนญี่ปุ่นถึงชอบกินพาร์เฟต์กันนะ ใครเคยไปถามบ้าง) “Ai Love Berry Parfait" (ราคา 105 บาท) มันผสมๆ กันหลายอย่างเลย มีไอศกรีมสตรอเบอร์รี่ รสชาติเปรี้ยวๆ เหมือนไอศกรีมโยเกิร์ต แล้วก็ระดมใส่มาร์ชเมลโล  อย่างตู้ม กินสลับกับคอนเฟลคกรอบๆ  และ
เจลลี่ผลไม้เหนียวๆ นุ่มๆ หลากหลาย texture ดีนะ แล้วก็สรุปจบด้วยซอสราสป์เบอร์รี่กับวิปครีม ตอนที่กินทุกอย่างที่ว่ามานั่นเข้าไปพร้อมๆ กัน แล้วเคี้ยวมันดีนะ เดี๋ยวเหนียวๆ เดี๋ยวกรอบๆ แล้วเดี๋ยวก็หยุ่นๆ แปลกๆ ดี

ยังมีอีกสองเมนูที่คุณเจ้าของร้านเค้าเอามาให้ลอง เมนูหนึ่งคือ “มอคคา ลาเต้” แต่ก็อย่างที่เคยได้บอกไป ว่าเราไม่ค่อยชอบกินกาแฟเท่าไหร่ และไม่ค่อยรู้ถึงความแตกต่างของกาแฟแต่ละแบรนด์ แต่ละชนิด เลยไม่รู้จะบอกยังไงว่าแบบไหนอร่อยกว่าแบบไหน แต่สำหรับ “มอคคา ลาเต้” แก้วที่กินเข้าไปนี้ ก็นับว่าอร่อยใช้ได้ สำหรับคนที่ไม่ค่อยรู้จักกาแฟอย่างเรา ขมนิดๆ มันหน่อยๆ 



Four - style Toasts
 กับจานสุดท้ายที่เค้ายกมาให้ถ่าย ซึ่งสร้างความสนุกสนานให้เรากับเพื่อนผู้ติดตามอย่างมาก เพราะว่ามันคือ “Four – Style Toasts" เป็นขนมปังปิ้งรูปหัวใจ 4 อัน (เปรียบเสหมือนหัวใจที่มี 4 ห้อง....เกี่ยวเนอะ) แล้วก็มี topping มาให้ราดลงไปบนขนมปัง 4 แบบ 4 รสด้วยกัน คือ บานาน่า – คาราเมลซอส, คอนเฟลคกรอบ, แยมสตรอเบอร์รี่โฮมเมด,  ไวท์ช็อกโกแลต  - ช็อกโกแลตซอส แล้วก็มีเนยที่เอาไปปั่นๆ จนเหลวให้เนื้อมันเนียนๆ ขึ้น ทีนี้ก็เลือกเอาเลยนะ ว่าจะละเลงอะไรยังไง โดยส่วนตัวแล้วชอบ บานาน่า – คาราเมลที่สุด เพราะว่ามันหวานๆ มันๆ เค็มๆ ดี เวลากินเอามามิกซ์กันมั่วๆ ก็ได้นะ แต่เค้าให้ขนมปังมาน้อยไปหน่อย ขออีกได้มั๊ยอ่ะ


Ai Garden เหมาะกับการมานั่งทำอะไรชิลล์มากๆ เพราะว่ามันค่อนข้างเงียบสงบ คนที่มาเดินที่นี่ ไม่ค่อยเยอะเท่าที่ K- Village ส่วนใหญ่จะเป็นคุณนายชาวญี่ปุ่นนัดมากินข้าวกับเพื่อนซะเยอะ ร้านเลยไม่พลุกพล่านนะ นั่งเล่นเนตไปได้สบายเลย เพราะว่าเค้ามี Wi-Fi ให้ฟรีด้วย ถึงสีร้านจะหวานไปหน่อย แต่ก็สบายตาดี เพราะคอนเซปท์ร้านเค้าคือ เนรมิตร้านให้มันเหมือนสวนเล็กๆ กลางกรุงจ้ะ


ทางไปร้านคงไม่ต้องอธิบายมากใช่มั๊ย จะไปจากทางไหนก็ได้ ทั้งทางฝั่งสุขุมวิท และทางฝั่งพระราม 4 ถ้าเข้าทางฝั่งพระราม 4 ก็เดินเข้ามาได้ ใกล้นิดเดียว “นิฮอนมาชิ” จะอยู่ด้านหลังของ K – Village แต่ถ้าเข้าจากทางสุขุมวิท ขอจงเลี้ยวเข้าซอยอรรถกวี 1 ที่ด้านหน้ามีร้าน S&P ตั้งอยู่ เลี้ยวเข้ามาสัก 20 เมตร แล้วจะเห็นป้ายซากุระสีแดงอันเป็นสัญลักษณ์ของ “นิฮอนมาชิ” เด่นเป็นสง่ามาแต่ไกลเลยแหละ


ขอบอกว่าแต่ละร้านที่เลือกมาลงทั้งในเว็บที่ทำงานอยู่ และเผื่อแผ่มายังบล็อกแห่งนี้ เป็นร้านที่ได้เลือกและคัดสรรมาอย่างดีแล้วนะ ว่ามันเวิร์ค บางร้านก็ดัง บางร้านก็ไม่ บางร้านเพื่อนก็บอกต่อๆ กันมา ก็ตามเสาะแสวงหาเบอร์เจ้าของร้าน แล้วขอไปถ่าย มันเลยเหมือนการได้กินไปด้วย  ทำงานไปด้วย และมันเป็นงานที่มีความสุขมากๆๆๆๆ (แม้มีแนวโน้มว่ามันจะสร้างความอ้วนให้กับเราก็ตาม แต่ก็อย่าได้แคร์ เพราะเราออกกำลังกายทุกวันจ้ะ) เพราะว่าชอบถ่ายรูปของกิน พอๆ กับที่ชอบถ่ายรูปวัตถุสิ่งของทั่วไป

แต่ช่วงนี้อัพบล็อกช้านิดนึงนะคะ เพราะว่างานเยอะ มันจะสิ้นปีแล้วนิ ต้องเตรียมแผนงานสำหรับปีหน้า มากมายๆ เดี๋ยวคราวหน้าอาจจะมีร้านน่ารักมากๆ ร้านนึงมาฝาก ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด (เพราะตอนนี้เค้ากำลังซ่อมร้านอยู่) โปรดติดตาม